ชื่อหลักสูตร : วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี
ชื่อปริญญา
ชื่อเต็ม : วิทยาศาสตรบัณฑิต (เคมี)
ชื่อย่อ : วท.บ. (เคมี)
หน่วยงานรับผิดชอบ
ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กำหนดการเปิดสอน : หลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2550 นี้ เริ่มใช้กับนักศึกษาวิทยาศาสตร์รุ่นที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 จนถึงปีการศึกษา 2557 หลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555 นี้ ใช้กับนักศึกษาวิทยาศาสตร์รุ่นที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 จนถึงปีการศึกษา 2559
สาขาวิชาเคมี
หลักสูตรพิสิฐวิธาน (Distinction Program) เน้นความเข้มข้นทางวิชาการ และการวิจัยที่ทัดเทียมกับ Honors Program ของต่างประเทศ จึงเหมาะกับนักศึกษาที่มีศักยภาพสูง และสนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ซึ่งไม่ต้องผ่านการเรียนระดับปริญญาโท หลักสูตรนี้ จัดอยู่ในโครงการ B.Sc.-Ph.D. ซึ่งใช้เวลาเรียนระดับปริญญาตรี 4 ปี และปริญญาเอก 3-4 ปี รวมเป็น 7-8 ปี ทั้งนี้ มีนักศึกษาเข้าโครงการมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2546
หลักสูตรพิสิฐวิธาน รับนักศึกษาหลักสูตรปกติ ที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.25 เมื่อจบชั้นปีที่ 2 และรักษาระดับคะแนนเช่นนี้จนจบการศึกษา รายวิชาในหลักสูตรเน้นความลึกซึ่งของเนื้อหามากกว่าปกติ และ/หรือเป็นวิชาในระดับบัณฑิตศึกษา นักศึกษาจะได้ทำวิจัยอย่างเข้นข้น และได้เสนอผลงานโดยเขียนวิทยานิพนธ์ และ/หรือให้การสัมมนา ผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรนี้ สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาเอกของ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ และเทียบโอนหน่วยกิต ในรายวิชาที่เคยเรียนในหลักสูตรพิสิฐวิธาน เข้าไปในระดับบัณฑิตศึกษาได้ ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีเวลาปฏิบัติงานวิจัยได้อย่างเต็มที่
ปัจจุบัน หลักสูตรพิสิฐวิธาน เปิดสอนในทุกสาขาที่มีการเรียนการสอนที่วิทยาเขตพญาไท
หลักเกณฑ์การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรพิสิฐวิธาน
สาขาเคมี
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดหลักสูตรพิเศษในระดับปริญญาตรีสำหรับผู้มีความสามารถด้านทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ ที่เทียบเท่ากับ Honors Program ของต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่า “หลักสูตรพิสิฐวิธาน” (Distinction Program) ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับปริญญาตรีเกียรตินิยมที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
ในการจัดการเกี่ยวกับการเรียนการสอนในหลักสูตรวิทยาศาสตร์-พิสิฐวิธานของภาควิชาเคมีจึงมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- หลักการและวัตถุประสงค์
- เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ลึกซึ้งในสาขาเอกที่ศึกษา มีพื้นฐานในการปฏิบัติงานวิจัย โดยมีทักษะใน การศึกษา ค้นคว้าและแก้ไขปัญหาได้
- เป็นผู้มีศักยภาพในการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ
- เมื่อสำเร็จการศึกษาสามารถนำความรู้ ความสามารถไปประกอบอาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- โครงสร้างหลักสูตรและข้อกำหนด
2.1 โครงสร้างหลักสูตร
`จำนวนหน่วยกิตในแต่ละหมวดอาจต่างกันได้ และรายวิชาในกลุ่มวิชาเหล่านี้ใช้แทนกันได้ แต่รวมแล้วต้องได้ ๑๑ หน่วยกิต ถ้าจำน วนหน่วยกิตที่ลงเรียนเกิน หน่วยกิตบังคับขั้นต่ำ สามารถนำไปนับเป็นหน่วยกิตของหมวดวิชาเลือกเสรีได้จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร ปกติ ๑๒๕ หน่วยกิต พิสิฐวิธาน ๑๒๙ หน่วยกิต 1) หมวดศึกษาทั่วไป ๓๐ ๓๐ มหาวิทยาลัยกำหนด ๑๖หน่วยกิต
– กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
– กลุ่มวิชาภาษา๗
๙๗
๙หลักสูตรกำหนด ๑๔ หน่วยกิต
– กลุ่มสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์
– กลุ่มวิชาภาษา
– กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
– กลุ่มวิชาดนตรี กิจกรรมพลศึกษาและอื่นๆ
๖#
๓
๕#
#
๖#
๓
๕#
#2) หมวดวิชาเฉพาะด้าน ๘๙ ๙๓ – วิชาแกน
– วิชาบังคับ
– วิชาเลือก๒๙
๔๖
๑๔๒๙
๕๔
๑๐3) หมวดวิชาเลือกเสรี ๖ ๖ 2.2 หมวดวิชาเฉพาะ
1. มีรายวิชาที่ลึกซึ้งในเนื้อหาของวิชาเอกมากกว่าหลักสูตรปกติ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามี ความสามารถที่จะศึกษาต่อใน
ระดับบัณฑิตศึกษาโดยเฉพาะปริญญาเอก
2. มีรายวิชาบัณฑิตศึกษาที่เปิดให้ลงทะเบียนได้ โดยจ่ายค่าละทะเบียนในอัตราของนักศึกษาปริญญาตรี รหัสวิชาในระดับ
บัณฑิตศึกษา ให้นักศึกษาเลือกเรียนโดยใช้รหัสเดียวกัน โดยผ่านการลงทะเบียนตามปกติ โดยให้ถือเป็นรายวิชาระดับ
ปริญญาตรีและเมื่อเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา สามารถถ่ายโอนหน่วยกิตในรายวิชาดังกล่าวได้ โดยเป็นไปตาม
ประกาศของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องโครงการความร่วมมือการรับนักศึกษาจากหลักสูตรพิสิฐวิธาน
ประกาศ ณ วันที่ 18 เมษายน 2548 โดยหน่วยกิตและรายวิชาจะนำมารวมในผลการศึกษา แต่จะไม่นำมาคิดเป็น GPA
นักศึกษาจะสามารถเรียนครบหน่วยกิตเร็วขึ้น และสามารถจบการศึกษาได้เร็วขึ้น
3. มีรายวิชาที่เน้นการปฏิบัติงานวิจัย เพื่อเพิ่มพูนทักษะในการศึกษา ค้นคว้าและปฏิบัติการทดลองด้วยตนเอง ตลอดจนการแก้
ปัญหา และรายงานผลโดยการเขียนวิทยานิพนธ์และนำเสนอผลงานในที่ประชุมคณะกรรมการหรือ ที่ประชุมวิชาการ รายวิชา
ที่ให้นักศึกษาปฏิบัติงานวิจัยของหลักสูตรพิสิฐวิธาน ทั้งหมดจำนวน 10 หน่วยกิต ในภาคต้นเป็นวิชา SCCH 494
Special Project (4 หน่วยกิต) และในภาคปลายเป็นวิชา SCCH499 Undergraduate Thesis (6 หน่วยกิต)2.3 การคัดเลือกนักศึกษาและสถานภาพในหลักสูตร
นักศึกษาที่จะศึกษาในหลักสูตรพิสิฐวิธานต้องเป็นผู้มีศักยภาพสูง
1. มีคะแนนเฉลี่ยสะสมในปีที่จะทำการคัดเลือก (ปีที่ 2 หรือปีที่ 3 ) ไม่ต่ำกว่า 3.25
2. เมื่อศึกษาในหลักสูตรแล้วจะต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.25 กรณีที่ได้เกรดเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า
3.25 จะให้กลับเข้าศึกษาในหลักสูตรปกติในภาคการศึกษาถัดไป ยกเว้นอนุกรรมการประจำหลักสูตรพิจารณาและ
เห็นชอบให้ศึกษาต่อในหลักสูตร เกียรตินิยมต่ออีกไม่เกิน 1 ภาคการศึกษา เพื่อให้ได้เกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.252.4 การประเมินผลและการจบการศึกษา
1. ผู้ที่จบการศึกษาในหลักสูตรพิสิฐวิธานต้องมีเกรดเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ ต่ำกว่า 3.25 ในกรณีที่มีผลการศึกษาต่ำกว่า
ที่กำหนด การให้จบการศึกษาจะให้เทียบเท่ากับการจบการศึกษาในหลักสูตรปกติ
2. เกณฑ์การได้รับเกียรตินิยม คิดเช่นเดียวกับกับระดับเกียรตินิยมของหลักสูตรปกติ โดยเกียรตินิยมดันดับ 1 จะต้องมีคะแนน
เฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.50 และเกียรตินิยมดันดับ 2 มีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.25 แต่น้อยกว่า 3.50
- หลักการและวัตถุประสงค์
- การบริหารหลักสูตร
3.1 คณะอนุกรรมการบริหารหลักสูตรประจำสาขาเอก มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน ที่แต่งตั้งโดยภาควิชา โดยความเห็นชอบจาก
คณบดีทำหน้าที่บริหารจัดการหลักสูตรดังต่อไปนี้1. พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมต่อการปฏิบัติและสภาวการณ์
2. บริหารการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามที่หลักสูตรกำหนด
3. คัดเลือกนักศึกษาเข้าหลักสูตร ดูแล ติดตาม ประเมินผลการศึกษาของนักศึกษาในหลักสูตร
4. รายงานผลการศึกษาของนักศึกษาในหลักสูตรต่อคณะกรรมการหลักสูตรประจำคณะ
5. ดำเนินการตามที่คณะกรรมการหลักสูตรและ/หรือที่ประชุมกรรมการบริหารคณะฯ เห็นชอบ3.2 การศึกษาและ/หรือฝึกวิจัยในต่างประเทศ
เพื่อส่งเสริมนักศึกษาในหลักสูตรพิสิฐวิธานที่มีศักยภาพสูงหรือมีผลการ ศึกษาดีเด่น ให้มีโอกาสเรียนรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาการระดับนานาชาติ คณะวิทยาศาสตร์จึงให้นักศึกษาได้ไปศึกษาและ/หรือฝึกทำการวิจัยในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และเรียนรู้ความก้าวหน้าและวิทยาการที่ทันสมัย ภายในระยะเวลา 3-6 เดือน โดยมีเกณฑ์สนับสนุนดังนี้
1. เป็นนักศึกษาในหลักสูตรพิสิฐวิธาน ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมจนถึงปีที่ 3 หรือก่อนไปต่างประเทศไม่ต่ำ กว่า 3.50
2. มีความสามารถทางภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยสถาบันการศึกษาต่างประเทศที่ รับนักศึกษา (เช่น คะแนนสอบ
TOEFL ชนิด paper-based testไม่ต่ำกว่า 550 หรือ computer-based test ไม่ต่ำกว่า 213 คะแนน)
3. กรณีที่นักศึกษาได้รับการสนับสนุนให้ไปต่างประเทศ ก่อนเดินทางไปต่างประเทศจะต้องทำสัญญาว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาใน
หลักสูตร พิสิฐวิธานแล้วจะเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา(ปริญญาโท หรือเอก) ในสาขาเอกหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกบ
สาขาที่กำลังศึกษาอยู่ หากไม่สามารถปฏิบัติได้ จะยินยอมชดใช้เงินทุนทั้งหมดที่คณะวิทยาศาสตร์จ่ายไปในการสนับสนุน
นักศึกษา ผู้นั้นไปต่างประเทศ
4. งบประมาณสนับสนุนการศึกษา/วิจัยในต่างประเทศกำหนดให้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน ภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
โดยรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายประจำเดือนค่าประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ - การสนับสนุนด้านต่างๆ
เนื่องจากหลักสูตรพิสิฐวิธานเป็นหลักสูตรพิเศษที่จัดให้นักศึกษาที่มี ความสามารถสูงแต่อาจมีจำนวนไม่มาก จึงถึงเป็นภาระเพิ่มเติมที่ทั้งนักศึกษาและคณาจารย์จะต้องปฏิบัติร่วมกัน คณะวิทยาศาสตร์จึงให้การสนับสนุนภาควิชาและคณาจารย์ ในการบริหารหลักสูตรดังนี้
4.1 งบประมาณสำหรับภาควิชา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติการและ โครงงานวิจัยเหมา
จ่าย 25,000 บาท/คน/ปี รวมทั้งหมดไม่เกิน 50,000 บาท/คน สามารถใช้ในการร่วมประชุมวิชาการใน/นอกประเทศ โดย
ความเห็นชอบของอาจารย์ที่ปรึกษาและภาควิชาฯ โดยให้เบิกจ่ายตามเกณฑ์ของระเบียบราชการ
4.2 ค่าตอบแทนสำหรับอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานวิจัยต่อนักศึกษา 1 คน 5,000 บาท/โครงงาน/ภาคการศึกษา (ไม่เกิน 3 ภาค
การศึกษา)
4.3 ค่าตอบแทนการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารหลักสูตร ตามประกาศคณะวิทยาศาสตร์
4.4 การคิดภาระงานสำหรับอาจารย์ที่สอนรายวิชาเฉพาะ (ที่จัดเป็นพิเศษให้กับนักศึกษา 25,000 บาท/คน โดยไม่เป็นรายวิชาใน
หลักสูตรปกติ) ให้คิดภาระงานเทียบเท่ากับรายวิชาในระดับบัณฑิตศึกษา - อื่นๆ
5.1 หลักสูตรปริญญาเอกที่รับนักศึกษาโครงการพิสิฐวิธาน สาขาเคมี คณิตศาสตร์ เคมีเชิงฟิสิกส์ เคมีวิเคราะห์ เคมีอินทรีย์ ชีวเคมี
ชีววิทยา เทคโนโลยีชีวภาพ พยาธิ-ชีววิทยา ฟิสิกส์ ฟิสิกส์เชิงเคมี เภสัชวิทยา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพอลิเมอร์
สรีรวิทยา และอื่นๆ ที่จะเปิดเพิ่มเติม
5.2 การเรียนภาษาอังกฤษ ภาควิชาฯ สนับสนุนให้สอบ TOEFL หรือ TOEFL-ITF (บัณฑิตวิทยาลัย) และนักศึกษาควรจะเลือก
เรียนวิชาเลือกภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษา Honors program ที่เป็นลักษณะของ Academic/Scientific Writing
5.3 การจบการศึกษา ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่สามารถเรียนจบระดับปริญญาเอกได้ นักศึกษาสามารถขอเปลี่ยนแผน
การศึกษาเพื่อให้ศึกษาจบหลักสูตรปริญญาโทได้
5.4 รายวิชา SCCH 490 Independent study in chemistry (วิชาเลือก) (2 หน่วยกิต x 45 = 90 ชั่วโมงต่อภาค
การศึกษา หรือ 5 ชม/สัปดาห์)นักศึกษาติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษารายวิชานี้ โดยเป็นหัวข้อที่ไม่มีการเรียนการสอนในหลักสูตรปกติ และมีการพบปะกันอย่างสม่ำเสมอ โดยเป็นการค้นคว้าโดยอิสระ และเมื่อจบภาคการศึกษาจะต้องส่งรายงานการศึกษา 1 ชุด โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ให้เกรด อาจารย์ที่ปรึกษาวิชานี้ ควรเป็นคนละท่านกับ project supervisor
ขั้นตอนในการเข้าหลักสูตรพิสิฐวิธาน
- นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ (เกรดเฉลี่ยสะสม 3.25) ต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาการทำ วิจัยที่สอดคล้องกับความสนใจของนักศึกษา
- ติดต่อขอรับใบสมัครเข้าเป็นนักศึกษาในหลักสูตรพิสิฐวิธาน ที่ภาควิชาเคมี ได้ตั้งแต่เปิดภาคการศึกษาต้น ชั้นปีที่ 3 ของทุกปี
- นักศึกษาเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อฝึกงานวิจัยกับอาจารย์ที่ปรึกษาการทำงานวิจัยอย่างน้อย 1 ภาคการศึกาา (นักศึกษาที่ยังไม่มีประสบการณ์งานวิจัยตามที่ภาควิชากำหนด จะไม่สามารถสมัครเข้าหลักสูตรได้)
- กรณีนักศึกษาในหลักสูตรฯ ต้องการสมัครขอรับทุนไปทำวิจัย ณ ต่างประเทศ จะต้องเตรียมตัวดังนี้
- ได้เกรดเฉลี่ยสะสม มากกว่าหรือเท่ากับ 3.5 พร้อมทั้งยื่นใบแสดงผลการศึกษา
- สอบ TOEFL ให้ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 550 พร้อมทั้งยื่นเอกสารแสดงผลการสอบผ่านภาษาอังกฤษ
- จดหมายหรือหลักฐานยืนยันการรับนักศึกษาเพื่อเข้าทำวิจัยจากอาจารย์ที่ปรึกษาใน สถาบันการศึกษาต่างประเทศ เพื่อให้คณะฯพิจารณาภายในต้นเทอมปลายปี 3 เพื่อจะได้เดินทางไปทำวิจัยได้ทันในช่วงภาคฤดูร้อนของปี 3
- เอกสารรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา (2 ท่าน)
- รายงานความก้าวหน้าผลงานวิจัย
- เอกสารประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายประจำวัน และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
หลักสูตรพิสิฐวิธาน (๑๐๑ หน่วยกิต) เรียนเหมือนหลักสูตรปกติ ยกเว้น – ไม่เรียนวิชา วทคม ๓๑๑, วทคม ๓๔๒ , วทคม ๔๙๗ และเพิ่ม :- | |
วทคม ๓๑๒ (A) เคมีวิเคราะห์ ๒ | ๓ (๓-๐-๖) |
วทคม ๓๔๓ (A) เคมีอนินทรีย์ ๒ | ๓ (๓-๐-๖) |
วทคม ๔๙๔ (A) โครงการวิจัย | ๔ (๐-๑๒-๔) |
วทคม ๔๙๙ วิทยานิพนธ์ปริญญาตรี | ๖ (๐-๑๘-๖) |
๒.๒ วิชาเลือกทางเคมี (หลักสูตรปกติ ไม่น้อยกว่า ๑๖ หน่วยกิต) | |
วทคม ๓๑๕ (A) แนวโน้มในวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๓๓๕ เคมีที่ผิวประจันและคอลลอยด์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๓๘๑ (A) คณิตศาสตร์สำหรับนักเคมี | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๑๒ (A) หัวข้อพิเศษทางเคมีวิเคราะห์ ๑ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๑๓ หัวข้อพิเศษทางเคมีวิเคราะห์ ๒ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๑๔ (A) เคมีสิ่งแวดล้อม | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๑๕ (A) เทคนิคเชื่อมต่อทางเคมีวิเคราะห์ | ๒(๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๐ (A) หัวข้อพิเศษทางเคมีอินทรีย์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๑ (A) เคมีอินทรีย์เชิงฟิสิกส์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๒ (A) การสังเคราะห์ทางเคมีอินทรีย์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๓ (A) เคมีของสารเฮทเทโรไซคลิก | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๔ (A) เคมีของสารธรรมชาติ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๕ (A) เคมีชีวอินทรีย์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๒๖ (A) กลไกปฏิกิริยาทางเคมีอินทรีย์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๓๕ (A) หัวข้อพิเศษในเคมีเชิงฟิสิกส์ ๑ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๓๖ (A) หัวข้อพิเศษในเคมีเชิงฟิสิกส์ ๒ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม๔๓๗ (A) สมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของวัสดุขั้นสูง | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๓๙ (A) เคมีเชิงคำนวณ | ๒ (๑-๓-๓) |
วทคม ๔๔๒ หัวข้อพิเศษในเคมีอนินทรีย์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๕๑ เคมีอุตสาหกรรม | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๕๒ หัวข้อพิเศษในเคมีอุตสาหกรรม | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๖๑ เคมีวัสดุพอลิเมอร์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๖๕ เทคโนโลยีพลาสติก | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๖๖ เทคโนโลยียาง | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๗๑ วัสดุศาสตร์ขั้นแนะนำ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๗๒ เทคโนโลยีวัสดุ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๙๑ หัวข้อคัดสรรในเคมี | ๒ (๒-๐-๔) |
วทคม ๔๙๘ โครงการวิจัยทางเคมี ๒ | ๔ (๐-๑๒-๔) |
หลักสูตรพิสิฐวิธาน (ไม่น้อยกว่า ๑๒ หน่วยกิต) | |
ให้เลือกเรียนรายวิชาที่มีอักษร (A) กำกับ และเพิ่ม :- | |
วทคม ๔๙๐ (A) การศึกษาอิสระทางเคมี | ๒ (๒-๐-๔) |
รวมทั้งวิชาระดับบัณฑิตศึกษาภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา | |
๓. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต) | |
วทคม ๔๕๘ FE การเยี่ยมชมโรงงาน | ๑ (๐-๓-๑) |
วทฟส ๒๐๗ FE อิเล็กทรอนิกส์ | ๒ (๒-๐-๔) |
วทพฤ ๒๘๖ FE พฤกษศาสตร์ทั่วไป | ๓ (๓-๐-๖) |
ศศภอ ๔๐๒ ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ | ๒ (๒-๐-๔) |
ศศภอ๑๐๖ ภาษาอังกฤษระดับ ๔ | ๓ (๒-๒-๕) |
ศศภอ ๑๐๗ ภาษาอังกฤษระดับ ๕ | ๓ (๒-๒-๕) |
ศศภอ ๑๐๘ ภาษาอังกฤษระดับ ๖ | ๓ (๒-๒-๕) |
สมศษ xxx กิจกรรมพลศึกษา | ๑ (๐-๒-๑) |
วศสว ๑๐๑ ดนตรีวิจักษ์ (หรือรายวิชาทางดนตรีอื่น ๆ) | ๒ (๑-๒-๓) |
วทคพ ๑๕๗ การผลิตสื่อหลายแบบ | ๓ (๓-๐) |
(หรือ วิชาคอมพิวเตอร์อื่น ๆ) | |
วทคมxxx อื่น ๆ นอกเหนือจากที่เลือกแล้วในหมวดวิชาเฉพาะ และวิชา | |
อื่น ๆ ที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของภาควิชา |
ชื่อหลักสูตร : วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี
ชื่อเต็ม : วิทยาศาสตรบัณฑิต (เคมี)
ชื่อย่อ : วท.บ. (เคมี)
หน่วยงานรับผิดชอบ
ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กำหนดการเปิดสอน : หลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2550 นี้ เริ่มใช้กับนักศึกษาวิทยาศาสตร์รุ่นที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 จนถึงปีการศึกษา 2557 หลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555 นี้ ใช้กับนักศึกษาวิทยาศาสตร์รุ่นที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 จนถึงปีการศึกษา 2559
สาขาวิชาเคมี
หลักสูตรพิสิฐวิธาน (Distinction Program) เน้นความเข้มข้นทางวิชาการ และการวิจัยที่ทัดเทียมกับ Honors Program ของต่างประเทศ จึงเหมาะกับนักศึกษาที่มีศักยภาพสูง และสนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ซึ่งไม่ต้องผ่านการเรียนระดับปริญญาโท หลักสูตรนี้ จัดอยู่ในโครงการ B.Sc.-Ph.D. ซึ่งใช้เวลาเรียนระดับปริญญาตรี 4 ปี และปริญญาเอก 3-4 ปี รวมเป็น 7-8 ปี ทั้งนี้ มีนักศึกษาเข้าโครงการมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2546
หลักสูตรพิสิฐวิธาน รับนักศึกษาหลักสูตรปกติ ที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.25 เมื่อจบชั้นปีที่ 2 และรักษาระดับคะแนนเช่นนี้จนจบการศึกษา รายวิชาในหลักสูตรเน้นความลึกซึ่งของเนื้อหามากกว่าปกติ และ/หรือเป็นวิชาในระดับบัณฑิตศึกษา นักศึกษาจะได้ทำวิจัยอย่างเข้นข้น และได้เสนอผลงานโดยเขียนวิทยานิพนธ์ และ/หรือให้การสัมมนา ผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรนี้ สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาเอกของ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ และเทียบโอนหน่วยกิต ในรายวิชาที่เคยเรียนในหลักสูตรพิสิฐวิธาน เข้าไปในระดับบัณฑิตศึกษาได้ ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีเวลาปฏิบัติงานวิจัยได้อย่างเต็มที่
ปัจจุบัน หลักสูตรพิสิฐวิธาน เปิดสอนในทุกสาขาที่มีการเรียนการสอนที่วิทยาเขตพญาไท
หลักเกณฑ์การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรพิสิฐวิธาน
สาขาเคมี
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดหลักสูตรพิเศษในระดับปริญญาตรีสำหรับผู้มีความสามารถด้านทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ ที่เทียบเท่ากับ Honors Program ของต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่า “หลักสูตรพิสิฐวิธาน” (Distinction Program) ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับปริญญาตรีเกียรตินิยมที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
ในการจัดการเกี่ยวกับการเรียนการสอนในหลักสูตรวิทยาศาสตร์-พิสิฐวิธานของภาควิชาเคมีจึงมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หลักการและวัตถุประสงค์
- เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ลึกซึ้งในสาขาเอกที่ศึกษา มีพื้นฐานในการปฏิบัติงานวิจัย โดยมีทักษะใน การศึกษา ค้นคว้าและแก้ไขปัญหาได้
- เป็นผู้มีศักยภาพในการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ
- เมื่อสำเร็จการศึกษาสามารถนำความรู้ ความสามารถไปประกอบอาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ